กลุ่มโรงแรมและเครือโรงแรม articles | SiteMinder https://www.siteminder.com/th/r/groupsandchains/ Global Booking Distribution Solutions Wed, 17 Jul 2024 06:37:23 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.7.2 Travel wholesaler คืออะไร รวมทุกสิ่งที่คุณควรรู้ https://www.siteminder.com/th/r/travel-wholesalers/ Wed, 13 Sep 2023 05:12:36 +0000 https://www.siteminder.com/r/travel-wholesalers/ Travel wholesaler คืออะไร?

Travel wholesaler คือบริษัทที่ทำธุรกิจแบบ B2B (ขายให้ธุรกิจด้วยกัน) โดยทำหน้าที่ซื้อห้องพักจำนวนมากจากโรงแรมในราคาพิเศษที่ได้ส่วนลด จากนั้นนำห้องพักที่ซื้อมานั้นไปขายต่อให้กับธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น OTA (Online Travel Agencies) หรือบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์, ตัวแทนท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม, บริษัททัวร์, สายการบิน และผู้ขายบริการท่องเที่ยวหรือที่พักรายอื่นๆ 

โดยสรุป Travel wholesaler ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการซื้อห้องพักจำนวนมากจากโรงแรมแล้วกระจายขายต่อให้กับธุรกิจในวงการท่องเที่ยว

Travel wholesaler หรือที่เรียกอีกอย่างว่า bed bank ทำหน้าที่เป็น ‘คนกลาง’ ระหว่างตัวแทนท่องเที่ยวกับผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะจะไม่ขายห้องพักโรงแรมของคุณให้กับนักท่องเที่ยวโดยตรง

Travel wholesaler แต่ละรายมีราคาและวิธีการขายที่แตกต่างกันสำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโปรแกรม บางรายอาจเน้นขายเฉพาะห้องพัก ในขณะที่บางรายอาจนำเสนอในรูปแบบแพ็คเกจ นอกจากนี้ บางรายยังอาจจำกัดการให้บริการเฉพาะกับที่พักบางประเภทหรือตลาดบางกลุ่มเท่านั้น

แม้ว่า Travel wholesaler จะเป็นประเด็นที่สร้างความเห็นแตกต่างในอุตสาหกรรม แต่มุมมองใหม่ต่อธุรกิจนี้อาจกลายเป็นโอกาสสำหรับกิจการของคุณก็เป็นได้ ลองมาพิจารณากันอย่างละเอียดยิ่งขึ้น

สารบัญ

ทำไมเราถึงควรพูดถึง Travel wholesaler สำหรับธุรกิจโรงแรม?

หากใช้อย่างมีกลยุทธ์ Travel wholesaler สามารถเป็นส่วนสำคัญในแผนการกระจายช่องทางการขายห้องพักของโรงแรมคุณ โดยเปิดโอกาสให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น กลยุทธ์การกระจายช่องทางการขายที่เหมาะสมควรมีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างการจองโดยตรงและการจองผ่านบุคคลที่สาม พร้อมทั้งมีแหล่งรายได้จากหลายช่องทาง

อย่างไรก็ตาม Travel wholesaler มักสร้างข้อถกเถียงและเป็นประเด็นขัดแย้งในอุตสาหกรรมโรงแรม เนื่องจากอาจมีข้อเสียที่น่าหงุดหงิดสำหรับผู้จัดการทรัพย์สินและผู้จัดการรายได้ ถึงขนาดที่ผู้ประกอบการโรงแรมต้องระมัดระวังอย่างมากในการร่วมงานกับพวกเขา

แต่เมื่อเกิดวิกฤต COVID-19 ขึ้น ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการกระจายความเสี่ยงและใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจที่นำโดยเทคโนโลยี นอกจากนี้ ยังเร่งให้เกิดความต้องการในการปรับตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากแรงจูงใจ พฤติกรรม และความชอบของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่ตายตัว

เมื่อการกระจายความเสี่ยงกลับมาเป็นวาระสำคัญอีกครั้ง Travel wholesaler จึงเปรียบเสมือนประตูบานใหม่ที่เปิดกว้างขึ้น

Diversify and boost revenue

Use SiteMinder's smart platform to easily sell inventory to your preferred wholesalers.

Learn more

โรงแรมของคุณควรพิจารณาใช้บริการ bed bank หรือไม่?

สำหรับโรงแรมบางแห่ง โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมขนาดใหญ่และเครือโรงแรม การใช้ bed bank สามารถเป็นประโยชน์อย่างมาก หากมีข้อตกลงที่ดีและมีเทคโนโลยีการกระจายช่องทางการขายที่เหมาะสม

คำแนะนำปัจจุบันสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมในอุตสาหกรรมนี้ ได้แก่:

  • เริ่มพิจารณากลุ่มลูกค้าเฉพาะและลักษณะของแขกที่เข้าพัก
  • มุ่งเน้นการปรับปรุงเครือข่ายช่องทางการขายให้ดียิ่งขึ้น
  • สร้างการมีตัวตนบนโลกออนไลน์เพื่อเพิ่มโอกาสในการจอง

นอกจากนี้ มุมมองที่เด่นชัดขึ้นหลังการระบาดใหญ่คือ Travel wholesaler กำลังปรับตัวใช้แนวทางการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบมากขึ้น โดยเน้นความโปร่งใสและลดการแบ่งแยกราคาที่ซื้อมา ทำให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้นในการกำหนดราคา

แนวโน้มตลาดที่มุ่งสู่การจองในนาทีสุดท้ายทำให้โรงแรมต้องปรับตัวให้ยืดหยุ่นมากขึ้นในการขายห้องพัก ส่งผลให้ bed bank อย่าง Hotelbeds สามารถปรับแนวทางการเป็นพันธมิตรกับโรงแรมให้ตอบโจทย์มากขึ้น

เมื่อรวมกับความสามารถในการจัดการราคาที่ต่อรองได้แบบเรียลไทม์ด้วยแพลตฟอร์ม hotel commerce  สำหรับโรงแรมอย่าง SiteMinder ทำให้ Travel wholesaler กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ

สื่อข่าวด้านการท่องเที่ยวชั้นนำรายงานว่า มูลค่าห้องพักที่โรงแรมขายผ่าน bed bank จะสูงเกิน 50 พันล้านดอลลาร์ในอนาคต เนื่องจากตลาด wholesale กำลังได้รับการปรับปรุงด้วยโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูง

วิกฤตโรคระบาดครั้งใหญ่ได้สร้างกลุ่มลูกค้าที่ชอบจองทริปในนาทีสุดท้าย ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมจำเป็นต้องเลิกใช้วิธีกระจายช่องทางการขายแบบ B2B ที่ทำด้วยมือ หากต้องการรับมือกับสถานการณ์นี้

นอกจากนี้ การคุ้มครองนักท่องเที่ยวที่มาพร้อมกับการจองแพ็คเกจท่องเที่ยว ทำให้การจองผ่านช่องทางการขายแบบดั้งเดิมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ Travel wholesaler กลับมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกครั้ง

Image explaining hotel wholesalers

ข้อดีและข้อเสียของ Travel wholesaler สำหรับโรงแรม

แม้ว่า Travel wholesaler จะเป็นวิธีการกระจายช่องทางการขายห้องพักที่น่าสนใจ แต่โรงแรมของคุณควรชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียให้ดีก่อนตัดสินใจ

มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ข้อดีของ Travel wholesaler สำหรับโรงแรม

  • Travel wholesaler ช่วยขายห้องพักของคุณผ่านตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์และตัวแทนขายปลีก ทำให้โรงแรมของคุณมีโอกาสเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไม่พลาดช่องทางการขายใดๆ
  • มีหลาย Travel wholesaler มีความเชี่ยวชาญในการเปิดประตูสู่ตลาดที่หลากหลาย ซึ่งโรงแรมของคุณอาจไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยตัวเอง การร่วมงานกับ Travel wholesaler จึงเหมือนกับการได้ทำการตลาดให้กับโรงแรมของคุณโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • การทำสัญญากับ Travel wholesaler มีข้อดีคือ คุณสามารถคาดการณ์อัตราการเข้าพักได้แม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังมั่นใจได้ว่าจะมียอดการจองในปริมาณที่แน่นอนและได้รับเงินล่วงหน้า ซึ่งช่วยในการวางแผนธุรกิจและการจัดการกระแสเงินสด

ข้อเสียของการใช้ Travel wholesaler 

  • แม้ Travel wholesaler จะมีเจตนาดี แต่เมื่อห้องพักถูกขายออกไปแล้ว การควบคุม OTA หรือคนกลางอื่นๆ ก็ทำได้ยาก
  • Travel wholesaler มักเรียกราคาเน็ตที่ต่ำมาก (หรือขอค่าคอมมิชชั่นสูง) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกำไรของโรงแรม เพราะยิ่งขายในราคาที่ต่ำ หรือต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นสูง กำไรที่โรงแรมได้รับก็จะยิ่งน้อยลง 
  • ราคาที่ตกลงกันมักคงที่เป็นเวลานาน ทำให้โรงแรมปรับราคาเพื่อเพิ่มกำไรได้ยาก
  • เกิดสัญญาหลายทอด ทั้งระหว่างโรงแรมกับ Travel wholesaler และระหว่าง Travel wholesaler กับเว็บจองออนไลน์หลายแห่ง ส่งผลให้ราคาในตลาดแตกต่างกันมาก
  • ราคาห้องพักที่ควรจะขายเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจท่องเที่ยว บางครั้งกลับถูกแยกออกมาขายเดี่ยวๆ ในราคาที่ถูกมาก ทำให้ต่ำกว่าราคาที่โรงแรมขายเองโดยตรง ส่งผลให้โรงแรมเสียเปรียบในการแข่งขันด้านราคา

บรรดา travel wholesaler ชื่อดัง

ต่อไปนี้คือลิส Travel wholesaler หรือ Bed bank ที่คุณอาจคุ้นเคย:

  • Abreu Online
  • Bedswithease
  • Bonotel
  • GRNconnect
  • Hotelbeds
  • HPro Travel (HotelsPro)
  • Jumbo Tours
  • Tourism Exchange
  • Travco
  • WebBeds

ทางเลือก Travel wholesaler สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมนั้นมีไม่จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ SiteMinder เพียงรายเดียวก็เชื่อมต่อกับ Travel wholesaler มากกว่า 100 รายแล้ว

Travel wholesaler รายใหญ่ในตลาดมีอะไรบ้าง?

HPro Travel (ชื่อเดิม HotelsPro) ถือเป็น Travel wholesaler ที่ใหญ่ที่สุดในตลาด โดยทำงานร่วมกับโรงแรมกว่า 1 ล้านแห่ง ครอบคลุมกว่า 70,000 แหล่งท่องเที่ยว 15,000 เมือง และ 205 ประเทศ

Hotelbeds เป็นอีกหนึ่ง Travel wholesaler รายใหญ่ที่ดำเนินงานใน 185 ประเทศ และรองรับที่พักหลากหลายประเภท เช่น โรงแรม รีสอร์ท บูทีค โฮสเทล อพาร์ตเมนต์ วิลล่า และ B&B

WebBeds ก็ถือเป็นยักษ์ใหญ่อีกรายในวงการนี้ โดยมีโรงแรมในเครือข่ายเกือบ 400,000 แห่ง ครอบคลุม 14,000 แหล่งท่องเที่ยว และทำงานใกล้ชิดกับทั้งโรงแรมอิสระและเครือโรงแรม

การทำสัญญากับทาง Travel wholesaler สำหรับโรงแรมของคุณ

เคล็ดลับดีๆ ในการทำสัญญาข้อตกลงกับทาง Travel wholesaler มีดังนี้:

  1. วางแผน ศึกษา และทดลอง
    อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าเราต้องการอะไร เพราะ Travel wholesaler แต่ละเจ้าอาจมีจุดเด่นต่างกัน บางเจ้าอาจถนัดตลาดหนึ่ง บางเจ้าอาจเก่งกับลูกค้าอีกกลุ่ม พอวางแผนเสร็จแล้ว ลองเลือกพาร์ทเนอร์ที่น่าสนใจมาทดลองทำสัญญาระยะสั้นก่อน ดูซิว่าคุ้มพอจะทำสัญญายาวๆ ต่อไหม
  2. บริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง
    เพื่อป้องกันปัญหาราคาไม่เท่ากัน โดยเฉพาะตอนที่เราปรับราคาแรงๆ สิ่งสำคัญคือต้องมอง Travel wholesaler เป็นเหมือนพาร์ทเนอร์จริงๆ และคอยดูแลจัดการสัญญาอยู่เสมอ
  3. วิเคราะห์อย่างสม่ำเสมอ
    ถ้าคุณรู้ว่าการละเมิดสัญญาเกิดขึ้นเมื่อไหร่และที่ไหน คุณจะตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าควรเปลี่ยนแปลงสัญญาในอนาคตอย่างไร หรือจะยังคงความสัมพันธ์ทางธุรกิจนี้ต่อไปหรือไม่
  4. มองหาพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายกัน
    ถ้าปรัชญาการทำโรงแรมของคุณเน้นเรื่องการบริการและการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า คุณควรหาพาร์ทเนอร์ที่มีแนวคิดเดียวกัน อย่างที่เรารู้กันดีว่าบางรายสนใจแต่ยอดขายมากกว่าการดูแลลูกค้า ดังนั้นต้องเลือกให้ดีก่อนทำสัญญากับ Travel wholesaler
  5. เป็นฝ่ายรุกและควบคุมสถานการณ์
    การทำสัญญาแบบปรับราคาได้ตามสถานการณ์ (Dynamic rate agreements) จะช่วยลดความแตกต่างของราคาและให้คุณควบคุมได้มากขึ้น ควรเลือก Travel wholesaler ที่ยอมรับเงื่อนไขของคุณได้ สำคัญมากที่คุณต้องสามารถปรับราคาตามอุปสงค์และอุปทานในทุกกลยุทธ์การขายของคุณ

ถ้าคุณมีทรัพยากรเพียงพอที่จะทุ่มเทให้กับการจัดการสัญญากับ Travel wholesaler เหมือนอย่าง IHG ก็จะเป็นประโยชน์มาก แต่ถ้าไม่มี ก็ควรหาข้อมูลและแบ่งปันประสบการณ์ให้มากที่สุด ผู้ประกอบการโรงแรมสามารถเรียนรู้ได้มากจากประสบการณ์จริงและจากเพื่อนร่วมอุตสาหกรรม วงการโรงแรมนั้นใหญ่มาก และชุมชนโรงแรมมักจะก้าวข้ามความท้าทายได้ด้วยการร่วมมือกันและการสร้างพันธมิตรอย่างชาญฉลาด

]]>
กลยุทธ์การขายโรงแรมเพื่อเพิ่มรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.siteminder.com/th/r/hotel-distribution/hotel-revenue-management/strategies-increase-hotel-room-sales/ Fri, 20 Mar 2020 02:48:12 +0000 https://www.siteminder.com/uncategorized-th/strategies-increase-hotel-room-sales/ การขายห้องโรงแรมคืออะไรและทำไมมันสำคัญ?

เหตุผลหลักที่ต้องมุ่งเน้นที่การเพิ่มยอดขายห้องพักในโรงแรมนั้นตรงไปตรงมา เนื่องจากเป็นการขับเคลื่อนรายได้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นช่วยให้คุณสามารถให้บริการที่แขกคาดหวังและขับเคลื่อนโรงแรมของคุณไปสู่การเติบโตในอนาคต ก่อนที่คุณจะเสนอแพ็คเกจ ทัศนศึกษา และการอัพเกรดเพิ่มเติมได้ คุณต้องเชี่ยวชาญศิลปะการขายห้องเสียก่อน

อีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญกับการขายห้องพักในโรงแรมก็คือการสร้างบรรยากาศที่แขกคาดหวัง โรงแรมที่เกือบจะว่างเปล่าอาจทำให้แขกไม่พอใจได้ การขายห้องพักให้ได้มากที่สุดจะทำให้คุณมีสภาพแวดล้อมที่มีชีวิตชีวาและมีเสน่ห์ซึ่งจะช่วยยกระดับการเข้าพักของพวกเขา

แม้ว่าการให้การเข้าพักที่สะดวกสบายเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับผู้จัดการโรงแรมหรือผู้ดำเนินการ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าคุณกำลังดำเนินธุรกิจอยู่ ซึ่งหมายความว่าคุณต้องขายห้องพักในโรงแรม กลยุทธ์การขายโรงแรมของคุณควรสร้างสมดุลระหว่างความมุ่งมั่นต่อประสบการณ์ของแขกกับความจำเป็นในการจองห้องพักให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในเวลาใดก็ตาม

ไม่ว่าจะเป็นช่วงพีคซีซันหรือนอกซีซัน เป้าหมายของคุณควรคือการพัฒนาเทคนิคการขายห้องที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มผลกำไร เรามาเจาะลึกว่าคุณจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างไร

สารบัญ

ประวัติและการพัฒนาการจัดการการขายโรงแรม

ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของการจัดการการขายโรงแรมถือเป็นการเดินทางอันน่าทึ่งที่สะท้อนถึงวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมการบริการเอง เป็นเรื่องราวของการปรับตัวและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และลักษณะที่พลวัตของอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวทั่วโลก

วันแรก: ความสัมพันธ์ส่วนตัวและการบอกปากต่อปาก

ในช่วงแรกของอุตสาหกรรมการบริการ การจัดการการขายโรงแรมขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ส่วนตัวและการอ้างอิงแบบปากต่อปากเป็นหลัก ผู้ประกอบการโรงแรมจะสร้างความสัมพันธ์กับตัวแทนการท่องเที่ยว บริษัททัวร์ และผู้จัดการการเดินทางขององค์กรเพื่อกระตุ้นการจอง คำแนะนำแบบปากต่อปากจากแขกที่พึงพอใจก็เป็นแหล่งธุรกิจใหม่ที่สำคัญเช่นกัน

การเติบโตของระบบกระจายส่วนกลางทั่วโลก (GDS)

ในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970 มีการถือกำเนิดขึ้นของระบบ Global Distribution Systems (GDS) ซึ่งเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ช่วยให้ตัวแทนการท่องเที่ยวและบริษัทจัดการการเดินทางสามารถเข้าถึงสินค้าคงคลังและบริการของโรงแรมได้แบบเรียลไทม์ สิ่งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการจัดการการขายของโรงแรม เนื่องจากช่วยให้โรงแรมเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการจองได้อย่างมาก

การปฏิวัติของอินเทอร์เน็ต

การเพิ่มขึ้นของอินเทอร์เน็ตในช่วงทศวรรษ 1990 และต้นปี 2000 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งในการจัดการการขายโรงแรม ด้วยการถือกำเนิดของตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) เช่น Expedia และ Booking.com โรงแรมจึงสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังนำไปสู่การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และทำให้ราคาห้องพักลดลงอีกด้วย

การจองโดยตรงและการเพิ่มขึ้นของเมตาเสิร์ช

เพื่อตอบสนองต่อพลังที่เพิ่มขึ้นของ OTA โรงแรมหลายแห่งเริ่มมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นการจองโดยตรงผ่านเว็บไซต์ของตนเอง สิ่งนี้นำไปสู่การพัฒนาระบบการจองที่ซับซ้อนและไซต์ค้นหาเมตาที่เพิ่มขึ้น เช่น Kayak และ Trivago ซึ่งรวบรวมราคาจากเว็บไซต์จองต่างๆ รวมถึงเว็บไซต์ของโรงแรมเอง

การบริหารการขายที่มีข้อมูลเป็นหลัก

แนวโน้มล่าสุดในการบริหารการขายของโรงแรมคือการใช้การวิเคราะห์ข้อมูลในการตัดสินใจ ด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ผู้จัดการโรงแรมตอนนี้สามารถตัดสินใจที่มีข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับราคา การกระจาย และการตลาด นี้ช่วยให้พวกเขาสามารถปรับแต่งกลยุทธ์การขายของพวกเขา สูงสุดรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของแขกของพวกเขาได้ดีขึ้น

ขายมากขึ้น ทำงานน้อยลง

ถ้าคุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและรายได้ของโรงแรมของคุณพร้อมลดภาระงานของคุณลง แพลตฟอร์มโรงแรมสมาร์ทของเราช่วยให้คุณทำได้

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

13 กลยุทธ์ยอดนิยมเพื่อปรับปรุงการขายห้องโรงแรม

ผู้ประกอบการโรงแรมทุกคนจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์การขายที่เหมาะกับตลาดเป้าหมายของตนเองและจุดหมายปลายทางในท้องถิ่นของตนมากที่สุด

ท้ายที่สุดแล้ว ขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินการโรงแรมหรือผู้จัดการเพื่อสร้างกลยุทธ์การขายโรงแรมแบบกำหนดเอง ซึ่งจะผลักดันยอดขายห้องพักส่วนใหญ่ในทรัพย์สินของตนเอง แต่นี่คือ 13 กลยุทธ์การขายห้องพักในโรงแรมที่ดีที่สุดที่ควรพิจารณา:

1. กลยุทธ์การขายห้องโรงแรมแบบกลุ่ม

กลยุทธ์นี้อาจต้องมีการยกเครื่องแนวทางการตลาดและการขายตามปกติของคุณ แนวคิดคือการขายห้องและพื้นที่ประชุมให้กับกลุ่มองค์กร สิ่งสำคัญคือคุณสามารถเสนอข้อตกลงสำหรับทั้งคู่ได้

การลงขายประเภทนี้ต้องการนวัตกรรม แต่มันสามารถเป็นประโยชน์มากสำหรับธุรกิจที่ทำซ้ำหากคุณทำได้ วิธีที่มีต้นทุนต่ำที่สุดในการรักษาการจองกลุ่มคือการเชื่อมต่อโดยตรงกับผู้วางแผน

คุณสามารถลงรายการที่พักองคุณในตลาดกลางสถานที่ ซึ่งนักวางแผนสามารถดูแผนผังชั้น ภาพถ่าย และสิ่งสร้างความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร การแบ่งกลุ่มผู้ชมเป้าหมายของคุณเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อให้คุณสามารถสร้างข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับกลุ่มประเภทที่เหมาะสมสำหรับสถานที่ให้บริการของคุณได้

2. กลยุทธ์การขายโรงแรมโดยตรง

ด้วยกลยุทธ์การขายนี้ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการได้รับการจองโดยตรงจากแขกให้ได้มากที่สุด การจองโรงแรมโดยตรงเป็นการจองที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมเนื่องจากการจองเหล่านี้สร้างรายได้มากที่สุด

ไม่มีตัวแทนหรือพันธมิตรในการกระจายที่ต้องได้รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อแขกจองโรงแรมโดยตรงออนไลน์

เพื่อให้สามารถนำกลยุทธ์การจองโดยตรงไปให้ใช้ได้, ผู้จัดการโรงแรมควรลงทุนในระบบการจองห้องออนไลน์ที่ซิงค์กับเว็บไซต์และระบบการจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่ของพวกเขา. ผู้ประกอบการโรงแรมยังควรให้ลำดับความสำคัญกับกลยุทธ์โซเชียลมีเดียเมื่อเน้นการเพิ่มจำนวนการจองโดยตรง.

3. กลยุทธ์การขายทางการตลาดปลายทาง

กลยุทธ์การขายประเภทนี้กำหนดให้ผู้ประกอบการโรงแรมต้องทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการท่องเที่ยวอื่นๆ ในจุดหมายปลายทางเพื่อส่งเสริมภูมิภาคโดยรวม

ด้วยแคมเปญการตลาดปลายทาง ธุรกิจในท้องถิ่นร่วมมือกันเพื่อกำหนดเป้าหมายตลาดการท่องเที่ยวขาเข้าที่ทรงพลังที่สุด และดึงดูดนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ทั่วไปมากขึ้น

4. กลยุทธ์การขายโปรโมทโซนร่วม

ด้วยกลยุทธ์การขายนี้ ผู้จัดการโรงแรมจำเป็นต้องระบุและประเมินงานสำคัญต่างๆ ที่จะจัดขึ้นในภูมิภาคท้องถิ่นตลอดทั้งปีปฏิทิน

จากนั้น ผู้ดำเนินการโรงแรมจะต้องจัดทำโปรโมชันที่สามารถตรงกับงานได้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ทำให้พวกเขาได้รับการจองจำนวนมากที่พวกเขาอาจไม่มีมาก่อน

โอกาสที่เหมาะสำหรับกลยุทธ์การขายส่งเสริมการขายข้ามรายการ ได้แก่ การประชุมอุตสาหกรรมที่กำลังจะมีขึ้น คอนเสิร์ต หรือการแข่งขันกีฬาที่สำคัญ

5. กลยุทธ์การขายโปรแกรมสมาชิกและรางวัลสำหรับแขก

นักเดินทางจำนวนมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะคนรุ่นมิลเลนเนียลที่มีอิทธิพล ให้ความสำคัญกับโอกาสที่จะได้รับรางวัลกับบริษัทที่พวกเขาทำธุรกิจด้วย โดยเฉพาะโรงแรมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากกับโปรแกรมการให้รางวัล

ในกลยุทธ์การขายที่เน้นรางวัลให้แก่แขก, ผู้จัดการหรือผู้ประกอบการควรพัฒนาระบบที่ให้รางวัลแก่แขกที่พักบ่อย, การซื้ออัพเกรด, และการแนะนำเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว.

กลยุทธ์การขายที่เน้นรางวัลนี้มักสร้างการจองซ้ำ, ซึ่งมีความได้เสียเพิ่มเติมสำหรับผู้ประกอบการโรงแรม.

6. กลยุทธ์การขายการจัดการรายได้

กลยุทธ์การขายประเภทนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสูงสุดจำนวนห้องที่จองได้ในทุกจุดของปี, โดยไม่คำนึงถึงการจราจรที่พบประจำในขณะนั้น.

ในกลยุทธ์การขายแบบให้รางวัลแขก ผู้จัดการหรือผู้ปฏิบัติงานควรพัฒนาระบบที่ให้รางวัลแขกสำหรับการเข้าพักบ่อยๆ ซื้อการอัพเกรด และสำหรับการแนะนำเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว

กลยุทธ์การขายแบบให้รางวัลมักจะทำให้เกิดการจองซ้ำ ซึ่งสร้างผลกำไรให้กับผู้ประกอบการโรงแรมเป็นพิเศษ

7. การปรับแต่ง OTA

Online Travel Agencies (OTAs) เช่น Booking.com, Expedia, และ Agoda เป็นแพลตฟอร์มที่มีอิทธิพลมากที่สุดที่สามารถเพิ่มมูลค่าและเป้าหมายของโรงแรมของคุณได้. อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก OTAs การปรับแต่งรายการของคุณเป็นสิ่งสำคัญ. นี้รวมถึงการให้รูปภาพคุณภาพสูง คำอธิบายที่ละเอียดและน่าสนใจ และข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการของโรงแรม. นอกจากนี้, การจัดการอัตราค่าบริการและความพร้อมในทางปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยเพิ่มอันดับของคุณในผลการค้นหาของ OTA, ทำให้โรงแรมของคุณมองเห็นได้มากขึ้นในสายตาของแขกที่เป็นไปได้

จำไว้, ในขณะที่ OTAs อาจคิดค่าคอมมิชชัน, พวกเขาสามารถสร้างปริมาณการจองที่สำคัญ, ทำให้เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การขายโรงแรมที่สมดุล.

8. การใช้ประโยชน์จากรีวิวออนไลน์

การมีชื่อเสียงที่ดีออนไลน์สามารถเพิ่มจำนวนการจองและรายได้ของโรงแรมของคุณได้อย่างมีนัยสำคัญ. กระตุ้นแขกของคุณให้แสดงความคิดเห็นบนแพลตฟอร์มที่นิยม เช่น TripAdvisor, Google, และ OTAs. ตอบรีวิวในลักษณะที่รวดเร็วและมืออาชีพ, แสดงความนับถือต่อความคิดเห็นที่เชิงบวกและแสดงถึงการทำงานกับปัญหาที่ถูกเลื่อนขึ้นในรีวิวที่ไม่เป็นบวก. นี้ไม่เพียงช่วยในการปรับปรุงชื่อเสียงออนไลน์ของโรงแรมของคุณ, แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการมุ่งมั่นในการพึ่งพาความพอใจของแขก.

นอกจากนี้, การโชว์รีวิวที่เป็นบวกบนเว็บไซต์ของคุณสามารถช่วยส่งเสริมการจองโดยตรงได้. จำไว้ว่า, มีชื่อเสียงออนไลน์ที่แข็งแกร่งเป็นเครื่องมือขายที่มีประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมโรงแรม.

9. การขายเพิ่ม

การขายเพิ่มคือกระบวนการขายรุ่นที่มีราคาสูงขึ้นของบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าของคุณกำลังซื้อ. วิธีที่คุณใช้ในการขายเพิ่มต้องได้รับการจัดการด้วยการอ่อนน้อม.

การจัดเวลา, ทัศนคติ, และความถี่ที่คุณใช้ในการขายเพิ่มเป็นสำคัญสำหรับความสำเร็จของความพยายามของคุณ. คุณไม่ต้องการดูเหมือนว่าจะเน้น, ดังนั้นจึงควรมองให้เป็นการสร้างความตระหนักมากกว่าการขาย. ให้แขกทราบว่ามีตัวเลือกให้พวกเขาทราบ แต่ปล่อยให้พวกเขาเริ่มความสนใจในสิ่งเพิ่มเติม.

10. การตลาดอีกครั้ง

การตลาดอีกครั้งช่วยให้คุณสามารถติดต่อกับแขกที่อาจจะเยือนเว็บไซต์ของคุณโดยไม่ได้ทำการจองสิ้นสุด. นักเดินทางมักจะเยือนเว็บไซต์หลายแห่งเพื่อสำรวจตัวเลือกของพวกเขาในระหว่างช่วงการวิจัยของการจองออนไลน์ของพวกเขา.

ด้วยกลยุทธ์การตลาดใหม่, คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าเหล่านี้อีกครั้งในจุดต่าง ๆ ขณะที่พวกเขากำลังทำการจองออนไลน์และเตือนให้พวกเขาทำการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณอีกครั้งเพื่อทำการจองกับคุณ.

11. สิ่งปลุกกระตุ้นหรือการขายร่วม

การขายร่วม (Cross-selling) เป็นกระบวนการขายสินค้าหรือบริการเพิ่มเติม, ที่เสริมสร้างสินค้าหรือบริการที่ลูกค้ากำลังซื้อ.

การนำเสนอสิ่งปลุกกระตุ้นในรูปแบบของสินค้าหรือบริการเพิ่มเติมอาจเป็นสิ่งที่ทำให้แขกของคุณยืนยันการจอง. คิดถึงไอเทมมูลค่าเพิ่มเช่นการนวดฟรีหรือทัวร์ท้องถิ่น.

12. สร้างพันธมิตรท้องถิ่น

นอกเหนือจากกรณีที่โรงแรมของคุณตั้งอยู่ในที่ห่างไกลหรือที่ตั้งที่เป็นเกาะเสมอไป, ควรมีธุรกิจและสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่คุณสามารถสร้างพันธมิตรที่เป็นประโยชน์ร่วมกันได้.

การโปรโมทร่วมกับร้านอาหาร, ร้านพิเศษเช่นการเช่าสกี, บริษัทผจญภัย, สวนสนุก, หรือ พิพิธภัณฑ์สามารถช่วยส่งทางการตลาดที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ.

และประเภทพันธมิตรเช่นนี้สามารถทำงานได้ไม่ว่าแขกจะวางแผนทริปของพวกเขาอย่างไร – สำหรับการจองที่พักก่อน, หรือสร้างแผนการท่องเที่ยวก่อนที่จะมองหาโรงแรม.

13. ทำให้การจองง่ายบนเว็บไซต์ของคุณ

ความสำคัญของประสบการณ์ที่ดีบนเว็บไซต์สำหรับนักเดินทางไม่สามารถพูดถ้วนได้. ไม่มีอะไรที่จะทำให้ความตื่นเต้นของพวกเขาลดลงได้เร็วกว่าการเว็บไซต์ที่ช้า, ยุ่งเหยิง, หรือซับซ้อน.

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณถูกต้อง, ใช้งานได้ง่าย, เข้ากันได้กับมือถือ, และมีปุ่มการกระทำที่ชัดเจนเช่น ‘จองตอนนี้’ เพื่อให้แขกที่เป็นไปได้คลิก. เมื่อการจองโดยตรงมีความคุ้มค่าขนาดใหญ่, เว็บไซต์ของคุณต้องเป็นลำดับความสำคัญ.

การขายห้องพักโรงแรม

การขายและการตลาดของโรงแรม

การขายและการตลาดไปพร้อมกัน – การขายต้องได้รับการสนับสนุนจากการตลาดที่ดีเพื่อให้เป็นไปได้. ตามหลักการพื้นฐาน, คุณไม่ควรตลาดสิ่งใดที่การขายไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้, หรือคุณจะเสี่ยงที่จะได้รับความคิดเห็นที่เป็นลบจากลูกค้า. มีหลายทางที่จะตลาดและขายโรงแรมของคุณทางที่ถูกต้อง, ถ้าคุณทำถูก, การจองควรจะไม่เป็นปัญหาเลย.

ในอุตสาหกรรมโรงแรม, การตลาดขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณทำให้นักเดินทางรับรู้ถึงทรัพย์สินของคุณ และกลยุทธ์การขายของคุณจะเป็นวิธีที่คุณทำให้พวกเขาจองการพักในทรัพย์สินของคุณ.

การตลาดของคุณควรหมุนรอบโดยใหญ่และรวมรอบ:

  • การกระจายข่าวสารเกี่ยวกับแบรนด์
  • การใช้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์
  • การติดต่อกับตลาดเป้าหมายหลักของคุณ
  • การเป็นกิจกรรมในสื่อสังคมเพื่อสร้างผู้ชม
  • การมีกลยุทธ์การตลาดทางอีเมล
  • การใช้กลยุทธ์การทำให้เว็บไซต์ของคุณปรับตัวต่อเครื่องมือค้นหา
  • การเป็นมิตรกับอุปกรณ์เคลื่อนที่

สิ่งที่สามารถช่วยเสริมการขายได้จริง ๆ รวมถึง:

  • วิดีโอ
  • โฆษณาทางภาพที่น่าทึ่ง
  • คัดสร้างคำโฆษณาอย่างดี
  • ข้อเสนอที่ได้รับการยกย่อง
  • เนื้อหาที่สร้างขึ้นโดยผู้ใช้ (ที่มีต้นตอจากประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม)
  • ข้อเสนอที่รวมค่ามากมาย
  • จุดขายที่เป็นเอกลักษณ์

คุณมีอิสรภาพมากมายในการขาย, และมันสามารถทำให้คุ้มค่าได้. ในสารอง, คุณสามารถบอกกับแขกที่เป็นไปได้ว่าที่พักของคุณดีแค่ไหนและว่าพวกเขาจะสนุกกับการเป็นแขกของคุณมากเพียงใดในการพักผ่อนของพวกเขา.

การขายห้องโรงแรมของคุณควรเกี่ยวกับการสร้างพลังงานและการสร้างความคาดหวังในนักเดินทาง – พวกเขาต้องเชื่อว่าการไม่พักที่โรงแรมของคุณจะเป็นโอกาสที่สูญเสียในการทำให้ทริปของพวกเขาเป็นที่สมบูรณ์.

ไอเดียการขายโรงแรม

มันไม่เคยเป็นเรื่องดีที่จะวางไข่ใส่ตะกร้าเดียวกันในทุกสถานการณ์ การขายโรงแรมของคุณก็ไม่ได้เป็นการยกเว้น. คุณต้องมีไอเดียมาก ๆ เพื่อเมื่อมีบางสิ่งที่ไม่ได้ทำงาน, คุณสามารถเปลี่ยนศูนย์จุดของคุณได้.

วิธีการขายที่แตกต่างจะเป็นไปตามตลาดและกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน – คุณคงไม่ขายในทางเดียวกันกับครอบครัวเช่นเดียวกับคู่รัก. ข่าวดีคือว่ามีไอเดียการขายโรงแรมที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ.

ดูที่รายการนี้เพื่อเริ่มต้นการคิดของคุณ:

  • ให้ผู้คนทัวร์โรงแรมของคุณในรูปแบบเสมือนจริง
  • ใช้เนื้อหาที่สด, น่าสนใจ, เพื่อตอบคำถามของนักเดินทาง
  • อัพเดทเว็บไซต์ของคุณด้วยกิจกรรมท้องถิ่น
  • คุยกับผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย
  • เชื่อมโยงกับธุรกิจท้องถิ่นเพื่อสร้างพันธมิตรที่มีกำไร
  • ให้แขกขายมากขึ้นให้คุณด้วยรีวิวและเนื้อหาที่สร้างขึ้นโดยผู้ใช้
  • ไปที่ที่ซ่อนเร้นเพื่อทำให้แบรนด์ของคุณมีนิมิต
  • เชื่อมโยงกับนักสร้างสรรค์

การลองทำบางสิ่งใหม่เสมอคุ้มค่า; หากมันไม่สำเร็จ คุณจะไม่สูญเสียอะไร และมันก็อาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการเพื่อส่งเสริมการขายโรงแรมของคุณ.

ไอเดียการขายโรงแรมที่สร้างสรรค์

ไม่มีไอเดียที่ถูกหรือผิดก่อนที่คุณจะเห็นผลลัพธ์ การเป็นคนสร้างสรรค์หมายความว่าคุณต้องทดลองและดำเนินการที่คุณไม่เคยทำมาก่อน. ลองมองวิธีทางด้านดั้งเดิมและคิดว่าคุณสามารถเคลื่อนออกจากกล่องได้อย่างไร.

ตัวอย่างเช่น, การขายให้แขกในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นสิ่งที่มีอยู่บ่อยและมีเหตุผล. แต่นอกจากนี้, คุณสามารถก้าวลงไปมองหาทางที่จะให้แขกมีเหตุผลมากขึ้นในการสำรวจและเพลิดเพลินกับสภาพแวดล้อมของพวกเขา – เช่นที่ Palomar San Diego ทำเมื่อ 2012.

โครงการของพวกเขาเป็นการแข่งขันสวนสำรวจที่ส่งแขกและคนในท้องถิ่นไปผจญภัยทั่วเมืองผ่านแอปเครือข่ายสังคมที่เรียกว่า ‘Scavenger Hunt with Friends.’ ไอเดียคือที่จะ #livelikealocal.

นี่อาจจะเป็นความล้มเหลวที่สมบูรณ์ แต่ในความเป็นจริงมันสร้างความรู้สึกแฟรชและสนุกใหม่ให้แก่นักเดินทาง, ในขณะที่ยังได้ทำให้พวกเขาได้รับการนำทัวร์ของเมือง.

มีหลายวิธีที่คุณสามารถใช้เพื่อการขายที่ไม่ตายตัวตามแบบเดิม, โดยเพียงแค่เอาสิ่งที่มีอยู่แล้วและคิดไปอีกขั้นหนึ่งหรือเปลี่ยนตัวประกอบเพื่อสร้างสิ่งที่นักเดินทางไม่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อน.

ไอเดียการขายโรงแรมโปรโมชั่น

โปรโมชั่นดีเพราะคุณสามารถเป็นยืดหยุ่นและเป้าหมายได้กับสิ่งที่คุณเสนอ, และบ่งบอกระฆังสัญญาณของนักเดินทางที่ค้นหาออนไลน์.

นี่คือที่ที่มันจริงๆ มีประโยชน์ที่จะไปทางที่แขกอาจจะคาดหวัง, เช่น โปรโมชั่นรอบฤดู, ธีม, กิจกรรม, การจองโดยตรง, หรือพันธมิตร.

1. โปรโมชั่นรอบฤดู

ส่วนมากทุกปลายทางมีฤดูที่ต่ำ, ที่การท่องเที่ยวไม่ได้เป็นกิจกรรมที่แข็งแรงเท่ากับในช่วงเวลาอื่น ๆ ของปี. อย่างไรก็ตาม, ด้วยข้อเสนอที่ถูกต้อง, โรงแรมของคุณไม่จำเป็นต้องผ่านที่ห้องว่างและทานตะวันที่ว่างเปล่า.

พยายามรวมส่วนลดกับโปรโมชั่นที่น่าสนใจตามฤดู ‘การได้รับพักผ่อนในฤดูร้อน’ และ ‘การพักผ่อนในช่วงฤดูหนาว’ และเตือนนักเดินทางถึงความสวยงามของปลายทางของคุณและว่าพวกเขาสามารถเห็นอะไรได้มากเมื่อมีคนมาน้อยลง.

2. โปรโมชั่นแบบธีม

เหล่านี้จะทำให้ดึงดูดความสนใจและเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่กำลังมองหาที่พักในพื้นที่

ตัวอย่างเช่น, คุณอาจมีโปรโมชั่นรอบด้านการแต่งงานหรือวันครบรอบถ้าคุณอยู่ในสถานที่ที่แสนหวานหวาน, ข้อเสนอในการผจญภัยหากคุณอยู่นอกเมืองใหญ่, หรือประสบการณ์การผ่อนคลายสุดอบอุ่นหากคุณเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในฝั่งทะเล. การเรียกร้องต่อไปยังวิถีชีวิตหรือการตั้งครอบครัวที่แตกต่างกันเป็นความคิดที่ดีเสมอ.

3. โปรโมชั่นที่มีพื้นฐานตามเหตุการณ์

มันมีความหมายมากที่จะนำแนวคิดจากเหตุการณ์และรวมเข้ากับโปรโมชั่นของคุณ. คนจะกำลังศึกษาเหตุการณ์เหล่านี้แล้วดังนั้นหากโรงแรมของคุณมีข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น, ความรู้สึกต่อโรงแรมของคุณควรเพิ่มขึ้นพร้อมกับการเข้าชมเว็บไซต์.

เหตุการณ์เหล่านี้อาจรวมถึงเทศกาลดนตรีหรือศิลปวัฒนธรรม, เหตุการณ์ในวันหยุดพักผ่อนหรือคริสต์มาส, ละครสัตว์, ตลาดเคลื่อนไหว, กีฬา และอื่น ๆ. ด้วยการจอง, คุณอาจเสนอบัตรราคาลดหรือปรับปรุงประสบการณ์โรงแรมเพื่อตรงกับเหตุการณ์, สร้างอัตราค่าบริการพิเศษ.

4. โปรโมชั่นการจองโดยตรง

การวางโปรโมชั่นพิเศษในเครื่องจองของคุณบนเว็บไซต์ของคุณจะให้นักเดินทางได้สิ่งส่วนราชการที่จะจองโรงแรมโดยตรงแทนที่จะทาง OTA. นอกจากนี้, มันยังช่วยในการจัดตั้งเว็บไซต์โรงแรมของคุณเป็นช่องทางการกระจายที่สำคัญที่สุดและช่วยเพิ่มกำไรโดยการลดค่าคอมมิชชั่น OTA.

สิ่งที่ทำให้เกิดแรงจูงใจอาจเป็นส่วนลดหรืออาจเป็นสิ่งเพิ่มเติม เช่น ขวดไวน์, บัตรร้านอาหาร, หรือบัตรของขวัญสิ่งอำนวยความสะดวก.

5. โปรโมชั่นการทำงานร่วมกัน

การร่วมมือกับธุรกิจอื่น ๆ จะลดค่าใช้จ่ายในการโปรโมตและการตลาด, และให้คุณความครอบคลุมที่กว้างขวาง, ในขณะที่พันธมิตรของคุณประสานไปกับส่วนท้ายของการตกลง. นอกจากนี้, มันอาจยังให้คุณเข้าถึงตลาดใหม่และสร้างธุรกิจที่ต่อเนื่อง. พันธมิตรทั่วไปรวมถึงกับสวนสนุก, ร้านอาหาร, โรงภาพยนตร์, พิพิธภัณฑ์, สนามกีฬา, การผจญภัย, และไกด์ทัวร์.

การสร้างโปรโมชั่นมีความหมายอย่างหนึ่ง แต่จำไว้ว่าคุณต้องการให้คนเห็นมันด้วย. โปรโมทเสมอบนช่องโซเชียลมีเดียของคุณและตรวจสอบให้แน่ใจว่าการทำค้นหาของคุณมีประสิทธิภาพ

6. โปรโมชั่นเฉพาะบนมือถือ

ทุกปี, สถิติเกือบทุกประการชี้ไปที่การใช้มือถือที่เพิ่มขึ้นในเว็บไซต์โรงแรม, การท่องเที่ยว, และการจอง, โดยมีตัวเลขที่คาดการณ์มากมาย.

เช่นเดียวกับการจองออนไลน์ที่เร็วกว่าวิธีที่เป็นทางการและล้าสมัยมาก, มือถือกำลังเริ่มเอาตัวรอดที่ตั้งเต็ม. การนำเสนอกลยุทธ์มือถือที่ฉลาดและมีประสิทธิภาพจะเสริมประสบการณ์ของลูกค้าและทำให้โรงแรมของคุณมีความเข้มแข็งภายในอุตสาหกรรมที่ไม่หยุดนวล.

ก่อนที่อื่น ๆ, คุณต้องมีเว็บไซต์ที่ถูกจัดทำให้เหมาะกับมือถือซึ่งจะดึงดูดการเข้าชมและยังคงเป็นมิตรต่อผู้ใช้เช่นเดียวกับเบราว์เซอร์บนเดสก์ท็อป. นอกจากนี้, ระบบการจองของคุณต้องสามารถทำโปรโมชั่นที่มีอัตราจำกัดสำหรับมือถือเท่านั้น, พร้อมทำให้กระบวนการจองเรียบง่ายในสองขั้นตอน.

ไอเดียการขายห้องโรงแรมแพ็คเกจ

แพ็คเกจของโรงแรมเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการตลาดและกลยุทธ์การขายโรงแรม, และยังเป็นสิ่งที่แขกคาดหวังที่จะได้รับ.

ผลกระทบที่แพ็คเกจเหล่านี้สามารถมีต่อการส่งต่อการจองเพิ่มเติมหรือการเพิ่มรายได้ขึ้นขึ้นอยู่กับสามปัจจัยสำคัญ:

  • สิ่งที่คุณขาย
  • วิธีที่คุณขาย
  • เมื่อคุณขาย

แขกจะไม่ซื้อแพ็คเกจเพียงแค่เพราะคุณบอกกับพวกเขาว่ามันเป็นดีมาก. คุณต้องให้พวกเขาคุ้มค่าและสิ่งที่จะทำให้พวกเขาตื่นเต้นหรือท้าทายตัวตน.

แพ็คเกจสามารถใช้กับทั้งนักเดินทางท่องเที่ยวและนักเดินทางทางธุรกิจเพื่อความสุขและความสะดวกสบายตามลำดับ, และโรงแรมของคุณสามารถได้รับประโยชน์จากการขายแพ็คเกจเพราะแขกที่ซื้อแพ็คเกจมีความน่าจะเป็นที่จะไม่ยกเลิกการจองของพวกเขา.

ไอเดียคือต้องการแพ็คเกจที่จะทำให้ทุกแขกพอใจ แต่ในทำนองเดียวกัน, หากคุณมีมากเกินไปมันจะทำให้ฉีดทิ้งได้. แพ็คเกจที่ยอดเยี่ยมสามอันดับดีกว่า 10 อันดับแบบธรรมดา.

นี่คือเคล็ดลับห้าประการเมื่อคุณกำลังสร้างแพ็คเกจโรงแรมของคุณ:

1. ใช้ธุรกิจอื่น ๆ เพื่อเสริมรายการแพ็คเกจของคุณ

การรวมบริการของคุณกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในพื้นที่เป็นวิธีที่แน่นอนในการเพิ่มมูลค่าให้แพ็คเกจของคุณ นอกจากนี้, มันยังให้คุณความยืดหยุ่นมากเมื่อคุณต้องการเสนอให้แขก. ตั๋วเข้าชมสวนสัตว์, ทัวร์, สวนสนุก, และพิพิธภัณฑ์เป็นรายการที่เป็นที่นิยมตลอดเวลา, เช่นเช่นบัตรส่วนลดร้านอาหาร. แม้แต่คอนเสิร์ตหรือเหตุการณ์พิเศษหนึ่งครั้งก็สามารถใช้เป็นแพ็คเกจช่วงสั้น. นี่คือวิธีที่คุณสามารถพัฒนาแพ็คเกจให้เข้ากับแขกที่สนใจการผจญภัยและคนที่ตื่นเต้นกับการช้อปปิ้งหรือรับประทานอาหารหรู

2. ส่งเสริมการช้อปปิ้งในที่เดียว

นักเดินทางที่ฉลาดจะดูที่แพ็คเกจของคุณและสงสัยว่าพวกเขาจะได้รับการดีเอาไหม นอกเหนือจากนี้ มีความน่าจะเป็นว่าราคาที่รวมกันของห้องพักและแพ็คเกจทัวร์จะคล้ายกันกับราคาของส่วนประกอบที่ซื้อแยกต่างหาก

นี่คือเหตุผลที่คุณต้องโฆษณาความสะดวกสบายและคุณภาพของสิ่งที่คุณกำลังเสนอ, แทนที่จะเพิ่มราคา.

3. ให้เป็นสร้างสรรค์กับตัวเลือกของคุณ

แขกอาจกลายเป็นเบื่อหากพวกเขาเห็นแพ็คเกจ ‘โรแมนติก’ อีกแล้ว. ลองรวมเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้นลงในแพ็คเกจและชื่อของมัน.

ตัวอย่างเช่น, แพ็คเกจ ‘รายการที่ต้องทำ’ อาจรวมถึงการให้บัตรหรือส่วนลดสำหรับสถานที่ที่ต้องไปที่สำคัญของพื้นท้องที่. นี้จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับแขกเพราะมีความน่าจะเป็นที่พวกเขาได้สนใจที่จะเยือนสถานที่ที่สำคัญนั้น.

สำหรับนักเดินทางทางธุรกิจ, ให้เน้นที่ความสะดวกสบายเสมอ เช่น แพ็คเกจที่มีอาหารเช้าถึงห้องพัก, บริการซักผ้าฟรี, และบริการขนส่ง.

4. ใช้ทรัพย์สินของคุณเพื่อเพิ่มมูลค่า

แม้ว่าส่วนมากของแพ็คเกจจะรวมห้องพักและกิจกรรมภายนอกใด ๆ คุณสามารถทำให้แพ็คเกจของคุณน่าสนใจมากขึ้นโดยเพิ่มบริการของคุณเข้าไปในรายการ เช่น การทำสปาหรือบาร์ทาบ.

ผู้เข้าพักจะต้องการทดลองสิ่งอำนวยความสะดวกของคุณ และพวกเขาจะมีโอกาสที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อทำเช่นนี้หากมันรวมอยู่ในแพ็คเกจ

5. ให้บริการสำหรับตลาดทางพิเศษ

อย่ามองข้ามครอบครัว. บ่อยครั้งเป็นเด็กที่คุณกำลังพยายามดึงดูดมากที่สุดเพราะพ่อแม่จะมองหากิจกรรมที่จะทำให้เด็กๆ ตื่นเต้น. หลักการเดียวกันก็ใช้ถ้าโรงแรมของคุณเป็นที่อนุรักษ์สัตว์เลี้ยง

คุณต้องพิจารณาผู้เข้าพักที่มีความบกพร่องทางร่างกายและคนที่มีอาชีพเฉพาะที่คุณสามารถให้แพ็คเกจที่ปรับให้เหมาะกับพวกเขาได้

อย่าลืมโปรโมทแพ็คเกจใหม่ที่คุณสร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแพ็คเกจระยะยาวหรือที่เกิดขึ้นครั้งเดียว. ใช้ Facebook Twitter Instagram และอีเมลของคุณเพื่อสร้างธุรกิจ ส่งข้อมูลไปยังสำนักงานการท่องเที่ยวท้องถิ่นของคุณเพื่อให้พวกเขาทำเช่นเดียว

อย่าลืมพิจารณาว่าคุณต้องการบรรลุอะไรด้วยแพ็คเกจของคุณ. บางครั้งพวกเขาสามารถสร้างความรู้จักแบรนด์มากมาย, แม้ว่าพวกเขาจะไม่ดึงดูดธุรกิจโดยตรงมากนัก ตัวอย่างเช่น, ฉันได้อ่านเกี่ยวกับข้อเสนอแปลกๆ จากโรงแรมในแคลิฟอร์เนีย.

สำหรับนักเดินทางทั่วไป คุณและคู่แข่งของคุณมักจะดูคล้ายคลึงกันมาก นั่นคือเหตุผลที่คุณต้องนำเสนอข้อเสนอที่เอื้อต่อการตัดสินใจและทำให้นักเดินทางที่ยังไม่แน่ใจเชื่อว่าโรงแรมของคุณคือโรงแรมที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา ดีลแพ็คเกจและสิ่งเสริมต่าง ๆ คือวิธีที่ง่าย ๆ แต่มีผลที่มีประสิทธิภาพมากน้อยอย่างนี้ ภาษาที่ถูกต้อง

ดูวิดีโอด้านล่างเพื่อดูว่าโรงแรมของคุณจะสร้างแพ็คเกจที่นักเข้าพักของโรงแรมคุณต้องการอย่างไร:

แผนการตั้งแผนการขายโรงแรม

การนำแผนการขายที่ประสบความสำเร็จนั้นต้องการให้คุณมีแผนการกระจายที่มีประสิทธิภาพ. ผู้ประกอบการโรงแรมต้องเชื่อมโยงกับผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมและตัวแทนเพื่อขายห้องพักของพวกเขาให้กับจำนวนคนมากที่สุดในหลายๆ กลุ่มตลาด

ตัวแทนที่มักจะถูกนำเข้ามาในแผนการกระจายใด ๆ รวมถึงตัวแทนท่องเที่ยวท้องถิ่น ศูนย์ข้อมูลผู้เยี่ยม ธุรกิจท้องถิ่น ตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ และองค์กรการตลาดปลายทาง

ผู้ประกอบการและผู้จัดการโรงแรมต้องรับรู้ว่าเครือข่ายการกระจายของพวกเขาเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ, และพวกเขาควรสม่ำเสมอมองหาวิธีใหม่ ๆ และนวัตกรรมในการเข้าถึงตัวแทนและผู้จำหน่ายใหม่ ๆ

นอกจากการขยายและพัฒนาเครือข่ายการกระจายที่หลากหลาย, ผู้ประกอบการโรงแรมต้องสามารถกระจายห้องพักของพวกเขาไปยังทุกตัวแทนของพวกเขาในเวลาจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ. วิธีเดียวที่ทำได้นั้นคือร่วมงานกับ Channel manager ที่เชื่อมต่อกับระบบการจัดการทรัพยากรของคุณ

ด้วย Channel manager, ผู้ประกอบการโรงแรมสามารถให้ข้อมูลความพร้อมในเวลาจริงให้กับทุกตัวแทนการกระจายที่พวกเขามี ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดหรือโซนเวลาไหน นี่ช่วยให้พวกเขาขายห้องพักมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ – รวมถึงการจองในทุกๆ ช่วงเวลาที่สุดคุ้มค่านั่นเอง

นอกจากนี้, มันยังลดความเสี่ยงของการจองห้องพักเกินจำนวนที่โรงแรมมี โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีปริมาณการเข้าพักสูง ตัวจัดการช่องทางจำเป็นต้องใช้เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติยุทธศาสตร์การขายใด ๆ ที่ผู้จัดการต้องการนำมาใช้ที่ที่พวกเขาเอง

เครื่องมือการขายโรงแรม

เครื่องมือการขายโรงแรมของคุณรวมถึงทุกอย่างที่ทำให้คุณสามารถนำแขกเข้าสู่โรงแรมของคุณได้. นี้อาจหมายถึงบัญชีโซเชียลมีเดียของคุณ แคมเปญการตลาดทางอีเมล โทรศัพท์บนเคาน์เตอร์ของคุณ ข้อเสนอของแขก หรือแม้กระทั่งแนวทางเทคโนโลยีของโรงแรม.

แม้ว่าเมื่อคุณคิดถึงเครื่องมือเป็นวัตถุหรือซอฟต์แวร์ส่วนหนึ่งที่ใช้ได้, คุณอาจพิจารณาเหล่านี้เพื่อช่วยในการกำหนดยุทธศาสตร์การขายของคุณ:

  • เครือข่ายโซเชียล
  • เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Google
  • เครื่องมือสำรวจความคิดเห็น
  • ตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์
  • เครื่องมือการจัดการทรัพย์สิน
  • เครื่องมือจองห้องพัก
  • ตัวจัดการช่องทาง
  • โปรแกรมสร้างเว็บไซต์

การระบุและใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของโรงแรมและแขกที่คุณต้องการดึงดูด แต่ส่วนใหญ่ทุกโรงแรมต้องการเครื่องมือเดียวกัน โดยความแตกต่างนี้จะเกิดขึ้นในวิธีที่คุณใช้

ข้อมูลมีความสำคัญมาก ดังนั้นการใช้เครื่องมือที่สามารถให้ฟังก์ชันรายงานที่เชิงลึกเป็นขั้นตอนที่ยอดเยี่ยม ด้วยข้อมูลที่เพียงพอในมือของคุณ คุณสามารถตัดสินใจที่มีข้อมูลให้การขาย ทำให้คุณมีข้อได้เปรียบต่อคู่แข่งที่กำลังทำตามแนวทาง ‘cookie-cutter’.

แน่นอนว่าคุณต้องฉลาดในวิธีที่คุณใช้งบประมาณในโรงแรมของคุณและค้นหาเครื่องมือที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นในขณะที่ช่วยให้ธุรกิจได้รับรายได้มากขึ้น.

ซอฟต์แวร์การขายโรงแรม

เมื่อคุณคิดถึงซอฟต์แวร์การขายในบริบทของโรงแรม ควรคิดถึงซอฟต์แวร์การกระจาย สามเครื่องมือที่สำคัญที่สามารถช่วยคุณได้คือ Channel manager เครื่องมือการจองห้องพักออนไลน์ และตัวสร้างเว็บไซต์

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นซอฟต์แวร์การขายอย่างเคร่งเครียด, แต่พวกเขาคือประการหลักในการขับขายและรายได้ในอุตสาหกรรมโรงแรม.

1. Channel manager

นี่คือหนึ่งในพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของคุณเมื่อกระจายห้องพักของคุณเพราะเป็น เครื่องมือที่จัดการกับตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ (OTAs) ต่าง ๆ ที่คุณขายห้องพักของคุณ เช่น Booking.com Expedia หรือ Airbnb

หลักการการทำงานหลักคือ “พูลอินเวนทอรี” ซึ่งหมายถึงการทำการอัปเดตราคาและความพร้อมให้บริการโดยอัตโนมัติทั้งหมดในช่องทางที่เชื่อมต่อเมื่อใดเมื่อไหร่ที่มีการจองทำการ. การเปิดใช้งานวิธีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการโปรโมตห้องพักของคุณจะสร้างการเพิ่มขึ้นของยอดขายโดยธรรมชาติ. อ่านคู่มือของเราเกี่ยวกับตัวจัดการช่องทางเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม.

2. ระบบจองห้องพัก (Booking engine)

ระบบจองห้องพักออนไลน์ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะกับการเพิ่มขึ้นของโซเชียลมีเดีย การสร้างประสบการณ์ที่ไม่มีการขัดข้องสำหรับแขกเมื่อพวกเขาจองโดยตรงจะเพิ่มการแปลงร่างของคุณและปรับปรุงผลการขายของคุณ. อ่านคู่มือของเราเกี่ยวกับระบบจองห้องเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม.

3. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ (Website builder)

ทำให้คุณไม่ต้องจ้างนักออกแบบเว็บไซต์ แต่คุณสามารถใช้ซอฟต์แวร์นี้เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่สวยงามและปรับให้เหมาะกับเครื่องมือค้นหาและแปลงผู้เข้าชม ได้ภายในไม่กี่นาที

คุณเพียงแค่ต้องจัดเตรียมเนื้อหาของคุณและเลือกจากเทมเพลตที่มีอยู่มากมาย เว็บไซต์ของคุณเป็นจุดขายที่สำคัญสำหรับนักเดินทาง การเอาชนะใจพวกเขาด้วยความประทับใจแรกอันน่าทึ่งนั้นเป็นสิ่งจำเป็น

ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม คุณจะสามารถนำกลยุทธ์การขายห้องพักในโรงแรมไปใช้ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือการขายโรงแรมเหล่านี้ และดูว่าเครื่องมือเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับโรงแรมของคุณหรือไม่ โปรดดูวิธีการทำงานในการสาธิตวิดีโอ

ประโยชน์ของกลยุทธ์การขายโรงแรม

เมื่อคุณขายห้องพักในโรงแรม คุณทำได้มากกว่าแค่รับแขกมาหน้าประตูบ้านของคุณ คุณสามารถปรับปรุงธุรกิจโรงแรมของคุณได้อย่างสมบูรณ์

ต่อไปนี้เป็นประโยชน์บางประการที่คุณจะได้รับเมื่อใช้กลยุทธ์การขายห้องพักในโรงแรมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มยอดขายห้องพักในโรงแรม:

  • คุณจะสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี กลยุทธ์การขายโรงแรมที่มีประสิทธิภาพช่วยให้คุณสร้างรายได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
  • คุณจะสามารถปรับปรุงที่พักของคุณได้ เมื่อคุณเริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจองของคุณ คุณสามารถปรับปรุงที่จะสร้างความฮือฮาเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณและขายห้องพักได้มากขึ้นต่อไป
  • คุณจะสามารถก้าวไปไกลกว่ากลยุทธ์การขายมาตรฐาน และเริ่มสร้างแพ็คเกจที่เพิ่มรายได้ที่คุณสร้างต่อแขกได้ เมื่อยอดขายของคุณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถเริ่มขยายข้อเสนอของคุณได้ แพ็คเกจโรแมนติก แพ็คเกจผจญภัย และการอัพเกรดที่หรูหราช่วยให้คุณขายห้องได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เพิ่มรายได้ที่คุณได้รับต่อการจองอีกด้วย
]]>